แคคตัส หรือ กระบองเพชรนั้น เป็นพืชในเขตร้อน ทนต่อสภาพอากาศของประเทศไทยเราได้ดี แต่หากอยากเลี้ยงแคคตัสให้จนออกดอกนั้น เราอาจะต้องคำนึงถึงอายุของแคคตัส ความสมบูรณ์ของแคคตัส วัสดุปลูกที่เหมาะสมกับสายพันธุ์  ปุ๋ย ยา อากาศ แสงแดด สภาพแวดล้อม ต่างเป็นปัจจัยในการให้แคคตัสออกดอกที่สวยงาม 

ดิน

ควรเลือกดินที่เหมาะสม แต่ละสายพันธุ์โดยหลักๆแล้ว จะแบ่งดินเป็นสองแบบ คือ ดินสำหรับไม้กราฟ ไม้ลำ และ ดินสำหรับแคคตัสทั่วไป และไม้ราก

  1. ดินสำหรับไม้กราฟ จะใช้ดิน 7 ถุง 100 หรือดินปลูกต้นไม้ทั่วไป โดยดินที่ซื้อควรเลือกชนิดที่เป็นดินร่วน ทางสวนเราแนะนำเป็นดินขุยไผ่ หรือ ดินหมักใบก้ามปูร่วนจะดีมาก ผสมกับมะพร้าวสับ 1 ต่อ 1 ใช้ปลูกได้เลย โดยก่อนปลูกอาจจะผสมขี้วัวรองก้นกระถางไว้ จะช่วยให้ไม้โตดี
  2. ดินสำหรับแคคตัสทั่วไป โดยปกติแล้วจะมีหลากลายสูตรมาก แต่ละสวนก็แต่ละสูตร แถมพื้นที่ในการปลูกก็มีผลต่อการเลือกดิน เพราะว่า หากเราใช้ดินโปร่งเกินไป ต้องรดน้ำบ่อย และธาตุอาหารน้อยทำให้ไม้โตช้า และ อาจจะไม่โตเลย แต่ไม่ตาย เป็นไปได้หากไม่อยากหาส่วนผสมเอาเรามีดินสำเร็จรูปแนะนำ

น้ำ

การรดน้ำแคคตัสนั้นมีหลักพิจารณาคือ

  1. สถานที่ตั้งกระถางหรือสถานที่ปลูก ให้ดูว่าสถานที่นั้นได้รับแสงมากหรือน้อย ในกรณีที่แดดจัด น้ำในดินหรือวัสดุปลูกจะระเหยได้เร็ว อาจทำให้ต้องรดน้ำบ่อยกว่าบริเวณที่ร่มรำไรหรือต้นที่เลี้ยงไว้ในบ้าน ประเมินกันว่า ต้นไม้หรือแคตตัสที่ตั้งในในบ้าน น้ำจะระเหยหมดภายใน 5-7 วัน แต่ถ้าตั้งไว้นอกอาคารจะระเหยหมดใน 2-3 วัน
  2. ความโปร่งร่วนของดินหรือวัสดุปลูก ดินที่โปร่ง ร่วนซุยจะระบายน้ำได้ดีกว่าดินที่เหนียว หรืออัดแน่นอยู่ในกระถาง
  3. ขนาดของกระถางหรือภาชนะปลูก ถ้ากระถางใหญ่ใส่ดินหรือวัสดุปลูกมากจะอุ้มความชื้นไว้นานกว่าภาชนะเล็กๆ
  4. ชนิดของภาชนะหรือกระถาง  มีผลต่อการรดน้ำ กระถางดินเผาจะระบายน้ำและอากาศได้ดีกว่า วัสดุปลูกอาจแห้งเร็วกว่ากระถางพลาสติก

รดน้ำตอนไหนดี-ควรรดในช่วงเช้า เพื่อให้น้ำที่ค้างอยู่บนต้นระเหยไปเมื่อถูกแสงแดด แต่ทางที่ดีอย่าปล่อยให้น้ำขังอยู่ที่ต้น เพราะอาจทำให้ต้นเน่าหรือถูกแดดเผามากเกินไป ส่งผลให้ไม้เน่าตายได้

-รดน้ำให้โชกจนน้ำไหลออกจากรูระบายที่ก้นกระถางไม่ควรใช้ฟอกกี้ฉีดๆ มันน้อยเกินไป และรดน้ำอีกครั้งเมื่อวัสดุปลูกแห้งเท่านั้น

-หากไม่แน่ใจว่าควรรดน้ำหรือไม่ ให้ใช้ไม้เล็กๆ เช่น ไม้เสียบลูกชิ้น ไม้จิ้มฟันปักลงในดินหรือวัสดุปลูก เพื่อตรวจดูความชื้นในดินก่อนรดน้ำ

ควรใช้น้ำอะไรรดดีน้ำประปา น้ำฝน ได้หมด อย่าใช้น้ำที่มีตะกอนสูงจะทำให้ ผิวไม้ไม่สวย

อากาศ

อากาศที่เหมาะสำหรับแคคตัส คือ ต้องเป็นอากาศที่โปร่ง ไม่ชื้น มีลมพัดถ่ายเทสะดวก ทั้งวันจะดีมาก ลองจินตนาการสภาพ อากาศคล้ายๆ ริมทะเล แคคตัสชอบอากาศแบบนั้นเลย แต่ไม่ชอบชื้น ชอบอากาศแบบลมพัดแห้งๆ หากเป็นอากาศหน้าฝนจะต้องระวังแคคตัสเป็นพิเศษ ไม่ควรให้มีความชื้นสูง จะทำให้แคคตัสตายได้

แสงแดด

แสงแดดเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ควรเลือกที่ตั้งแคคตัส ที่เหมาะสมกับแคคตัส วิธีเลี้ยงแคคตัสการหาที่วาง ควรมองจากทิศทางของแสงแดด หากเป็นไปได้ควรจะพลางแสงแคคตัส 50 % กำลังเหมาะสม เพราะจะทำให้ได้ไม้ที่ผิวสวย และควรจะได้รับแสงแดดตลอดวัน จะทำให้แคคตัสของคุณ โตไวมาก แต่ปกติแล้ว แคคตัสเป็นไม้ที่สามารถโดดแดดได้โดยไม่ต้องพลาง แต่อย่านำแคคตัส จากในร่มแล้วไปโดนแสงแดดโดยตรงจะทำให้แคคตัสของคุณผิวไหม้ และแห้งตายได้ 

การเทรนแสงแดดให้แคคตัส เทคนิคที่ นักลี้ยงแคคตัสควรทราบ

  1. เมื่อนำแคคตัสใส่กระถางวันแรกไม่ควรนำไปตากแดดโดยตรง ต้องค่อยให้โดนแสงแดดทีละนิด
  2. ควรนำแคคตัส ออกไปพบแสงแดด ยามเช้า เวลาที่เหมาะสมควรจะเป็น 07.00 – 10.00 ใน อาทิตย์แรกๆ
  3. หลังจากเห็นว่าไม้โตแข็งแรง สามารถทนแดดได้แล้ว ควรจะ ตากแดดให้นานขึ้น แต่ช่วงเที่ยงวัน – บ่าย ควรจะนำเข้าร่ม แล้ว 15.00 ค่อยนำออกไปตากแดดใหม่ เพิ่มความอดทนให้แคคตัส ทำแบบนี้สัก 1 เดือน รับรอง แคคตัสของคุณจะสามารถทนแสงแดดที่แรงได้ ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
  4. การเลี้ยงแคคตัสกลางแจ้ง กลางแดด แดดร้อย ยังส่งผมให้สุขภาพแคคตัสแข็งแรงมาก แค่ทนต่อโรค และแมลงอีกด้วย

กระถาง

ควรเลือกกระถาางที่ใหญ่กว่าขนาดของแคคตัสไม่มาก การเลือกกระถางสำหรับแคคตัส ควรเลือกกระถางให้เหมาะสม โดยดูจากฟอร์มไม้ก่อน ว่าไม้ที่คุณเลี้ยงนั้นเป็นไม้ ชนิดใด โดยส่วนใหญ่จากประสบการณ์ของผม ไม้จะแบ่งเป็น 2 ชนิด กว้างๆ คือ ไม้ทรงกลม ฟอร์มกอ กับ ไม้ลำ ทรงสูง

  1. ไม้ทรงกลม ฟอร์มกอ แคคตัสทรงกลม ฟอร์มกอ จะเป็นแคคตัสที่ อ้วนกลม เป็นพุ่ม สังเกตุง่ายๆ คือ ไม้กลุ่มนี้เวลาโตขึ้น จะอ้วนกลม และแตกหน่อ ไปเรื่อย ไม้สกุลนี้ เบื้องต้นจะได้แก่ ตระกูลแมมมิลาเรีย ยิมโนคาไลเซียม แอสโตรไฟตัม อิชินอบซิส การเลือกกระถางสำหรับกลุ่มนี้ ควรจะเป็นกระถางทรงอ้วน สั้น มีก้นกระถางสั้น และควรจะมีขนาดใหญ่กว่า แคคตัสที่เลี้ยงไม่มาก ให้กว้างกว่าประมาณ 1 นิ้ว – 2 นิ้วกำลังดี
  2. ไม้ลำ ทรงสูง จะเป็นไม้ที่นิยมเลี้ยงไว้ประดับสวยงาม มีทรงสูงมาก เหมือนที่เราเห็นตามภาพยนตร์ ส่วนใหญ่ได้แก่ ตระกูลไม้ตอสามเหลี่ยม คอนโดนางฟ้า ปราสาทนางฟ้า พ่อเฒ่า แม่เฒ่า ตอบลู การเลือกกระถางสำหรับไม้กลุ่มนี้ควรจะเป็นกระถาง ทรงสูง ให้เหมาะกับรากของแคคตัสทรงสูง โดยให้คำนึงถึงราก และความสูงของแคคตัส

ปุ๋ย

มีให้เลือกเยอะมากมาย แต่ที่เราแนะนำปุ๋ยสำหรับวิธีเลี้ยงแคคตัสมือใหม่ คือ เราจะใช้สูตร 16-16-16 เป็นปุ๋ยเม็ดสีเหลืองสูตรละลายช้า ใช้ได้ดีมาก แต่หากอยากได้ดอกสวยๆ แนะนำให้อดน้ำสัก อาทิตย์นึง แล้วรดด้วยปุ๋ยเกล็ดของกล้วยไม้ ยี่ห้อที่ใช้ได้แก่ ทวินฟอตี้ ที่เคยใช้ ได้ผลค่อนข้างดีมาก แต่ไม่ควรใช้บ่อยเพราะจะทำให้ต้นไม้ ป่วยง่าย เหมือนเราไปเร่งการเจริญเติบโตของ แคคตัส มากเกินไป

ยา

ปกติยารักษา แคคตัสของสวนเราจะแบ่งเป็น 2 แบบ

  1. ยาฆ่าแมลง คือ ยาที่ใช้สำหรับกำจัดแมลงโดยเฉพาะ พวกเป็นศัตรูแคคตัส เช่น เพลี้ยหอย(เกลียดที่สุดแต่กำจัดได้แล้ว) เพลี้ยไฟ หอยทาก เพลี้ยญี่ปุ่น ไรแดง เพลี้ยแป้ง ตามอ่านเรื่องราวของแมลงศัตรูของแคคตัสเพิ่มเติมได้ที่นี่ โดยยาฆ่าแมลงหลักๆ เราจะใช้ วนๆ ไป โดยตั้งแต่เริ่มปลูก หากเป็นไปได้ ควรใส่ยาฆ่าแมลงที่ชื่อว่า สตาเกิ้ลจี หากหาซื้อไม่ได้ สอบถามสวนเราได้นะ โดยลักษณะเป็นเกล็ดสีม่วงคล้ายๆ น้ำตาล โดยใช้นิดหน่อย ผสมลงไปตอนปลูกเลย ยาจะถูกต้นไม้ดูดซึมทุกครั้งเมื่อรดน้ำ ใช้ได้ดีมากยาตัวนี้ ต่อมาคือ ย่าฆ่าแมลง ที่เราใช้ พอสท์ อันนี้ผสมน้ำ กลิ่นเหม็นมาก ปกติจะใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ โดยหากพบว่ามีแมลงแปลกๆ เกาะที่ต้น หรือสังเกตุที่ต้น เริ่มมีใยแมงมุมแปลกๆ ให้สันนิษฐานได้เลยว่าจะมีแมลงมาแล้ว ให้ฉีดได้
  2. ยากันเชื้อรา ปกติจะใช้เป็นแบบผง ชื่อ คาเบนดาซิม เป็นผงๆ คล้ายแป้ง ผสมน้ำแล้วรดที่ต้นได้เลย สำหรับเราไม่ค่อยอันตราย เราผสมรดเดือนละครั้ง ถ้าเป็น ฤดูฝน เราจะรดถี่หน่อย อาจจะอาทิตย์ละครั้ง หลังจากรดแล้ว ห้ามรดน้ำ เพราะมันจะไปล้างยาที่พ่น ออกไป

ขอบคุณผู้อ่านนะ

หากเพื่อนๆ ชอบและกำลังหาแคคตัสมาเลี้ยงสวยๆ เราแนะนำร้านแคคตัสร้านนี้มีจำหน่ายแคคตัสหลายสายพันธุ์ สามารถมาคุยกันได้ที่เพจเรานะ ไม่ซื้อไม่เป็นไรมาปรึกษาคุยเล่นกันได้ที่ ChamaiCactus สวนแคคตัส ย่านปทุมธานี มีจำหน่ายวัสดุปลูกต้นไม้ ดินปลูกต้นไม้ กระถาง และแคคตัส กระบองเพชร