ปัจจุบันนี้ ปี 2022 การปลูกเลี้ยงแคคตัสในประเทศไทย ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ประกอบกับสถาณการณ์ โรคระบาดที่เรารู้กัน คือ Covid-19 ทำให้วงการต้นไม้ โดยเฉพาะอย่างวงการแคคตัสนั้น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีทั้ง ผู้ที่ได้รับผลกระทบทางตรง และผลกระทบทางอ้อม อีกทั้งยังมีผู้คนบางส่วนที่ต้องอยู่บ้าน หรือทำงานจากที่บ้าน ทำให้วิถีชีวิต ในการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป ไม้ประดับจึงได้รับความนิยมสูงมากในช่วง 1 – 2 ปีก่อน มีทั้งเจ้าของสวนใหม่ๆ และเจ้าของสวนที่เป็นตำนาน รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าที่นำเข้าต้นไม้จากแหล่งอื่นๆ อีกด้วย 

จึงทำให้เกิดการสะสม และมีการผลิตแคคตัสสายพันธุ์แปลกๆ ใหม่ๆ และ ทั้งผู้เลี้ยงเก่าที่เคยเพาะเลี้ยงไว้ทำให้เกิดมีแคคตัสในตลาดจำนวนมาก รวมทั้งปีล่าสุดนี้ยังมีเรื่องของสภาพเศรษฐกิจ และสงคราม การเมือง ขึ้นมาอีก จึงทำให้ผู้คน ผู้ซื้อ ลูกค้า เริ่มจับจ่ายใช้สอยน้อยลงจึงทำให้เกิดเหตุการณ์ แคคตัสขายไม่ดี ถ้าหากเป็นเจ้าของสวนที่ทำสวนอีก อาจจะไม่กระทบมากเนื่องจากเราสามารถปลูกเลี้ยงของเราต่อไปได้ เพราะต่อให้แคคตัสขายไม่ได้ เราก็ยังมีที่เลี้ยง และสามารถเพาะพันธุ์ ขยายพันธุ์ต่อไปได้ แต่หากเป็นพ่อค้า แม่ค้า ที่ซื้อมาเพื่อขาย อันนี้ก็จะลำบากหน่อย เพราะหากแคคตัสขายไม่ได้ จะส่งผลให้ต้องดูแล และเกิดการที่ต้องเอาต้นทุนมาจม กับสินค้า

เนื่องจากเราได้คุยกันถึงสาเหตุเบื้องต้นกันไปแล้วทีนี้เรามาดูกันว่า จะแก้ปัญหาแคคตัสขายไม่ดีอย่างไรได้บ้าง จากประสบการณ์ที่เรายังสามารถทำสวนแคคตัสของเราไปได้เรื่อยๆ เราจะมาแนะนำเทคนิคที่สามารถยังใช้ได้ดีเพื่อให้แคคตัสที่ขายแคคตัสไม่ได้ กลับมาขายได้

โพสต์ขายตาม Social

เป็นวิธีแรกๆ ที่เราน่าจะคิดถึงกันแต่ด้วยปริมาณที่มีผู้ขายเหมือนกันเป็นจำนวนมาก จะทำให้โพสต์ของเรานั้นอาจจะไม่มีผู้พบเห็นได้ ดังนั้นบางครั้งเราจึงอาจจะต้องใช้วิธีการโพสต์ ในหลายเพจมากขึ้น แต่ไม่ควรโพสต์ซ้ำๆกันเกินไป เพราะจะทำให้น้องแคคตัสที่เราขายนั้นดูไม่น่าสนใจ และอาจจะทำให้มีปัญหาในการอยู่ร่วมกลุ่มกับผู้ที่สนใจท่านอื่นๆ ในกลุ่มด้วย สิ่งที่แนะนำคือ โพสต์วันละไม่เกินสองครั้ง ช่วงเช้า กับ ช่วงเย็น ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แล้วก็โพสต์วันเว้นวัน ก็จะดี จะทำให้สินค้าของเรานั้นดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นกับผู้พบเห็น เพราะไม่ได้พบเห็นบ่อยจนเกินไป

แคคตัสแปลกใหม่ / สายพันธุ์ใหม่ๆ รูปทรงแปลกๆ

ให้ทำความเข้าใจก่อนว่า หากคุณมีผลผลิตที่เหมือนกับคนอื่นๆ ในปริมาณมาก ก็จะเป็นเรื่องยาก ที่จะขายได้ ขายดี เนื่องจากเป็นของที่คนอื่นๆ มีเหมือนกัน และมีคล้ายๆ กัน อีกทั้งบางครั้ง ลูกค้ามีสายพันธุ์นี้แล้ว เค้าก็คงไม่ซื้อซ้ำเพิ่มเข้าไปอีกแน่นอน ดังนั้นเราจึงต้องพยายามขยายพันธุ์ส่วนที่เรามีเหมือนคนอื่น ในปริมาณที่พอเหมาะก็เพียงพอ แล้วให้เราเพิ่มแคคตัสสายพันธุ์ใหม่ๆ เข้ามาขายบ้าง หรือให้เราเลือกจากที่เรามีอยู่ว่าสายพันธุ์ไหนแปลกๆ ไม่ค่อยเห็นคนขาย เราถึงนำมาสร้างความแปลกใหม่ และเสนอขายสายพันธุ์นั้นให้กับกลุ่มลูกค้าของเรา

เลือกขายเฉพาะกลุ่ม / สายพันธุ์นั้นๆ

ปัจจุบันนั้นกลุ่มใน Facebook ได้รับความนิยมมาก ในการใช้พูดคุยแลกเปลี่ยน และใช้ในการซื้อขายสินค้าหากเรากำลังเพาะเลี้ยงแคคตัส และมีแคคตัสปริมาณมากในบางสายพันธุ์ลองมองหากลุ่มเฉพาะของแคคตัสในสายพันธุ์นั้นๆ เพื่อนำน้องแคคตัสที่เรารักไปโพสต์ขายตามกลุ่มสายพันธุ์ เพราะ ในกลุ่มนั้นก็จะมีลูกค้าที่กำลังมองหาสายพันธุ์เดียวกันนี้ด้วย ทำให้โอกาสในการขายมีมากขึ้น อย่างเช่น ถ้าหากคุณชอบสายพันธุ์แมมมิลาเรีย คุณก็ลองมองหากลุ่มที่มีคนสนใจแมมเหมือนกัน เริ่มต้นคุณอาจจะเพียงแค่โพสต์ภาพความสวยงามของแคคตัสของคุณก่อน เช่น ภาพดอกสวยๆ เพื่อให้เป็นที่รู้จักภายในกลุ่ม หรืออาจจะคอมเม้นเพื่อทักทายเพื่อนๆ สมาชิกท่านอื่น หรืออาจจะกดไลค์บ้าง เพื่อให้เกิดการ Active ของคุณเอง แล้วอาจจะทำให้การโพสต์แคคตัสของคุณมีคนสนใจเพิ่มมากขึ้นได้

สร้างฐานลูกค้าใหม่ของสวนตัวเอง

วิธีการนี้อาจจะเป็นวิธีที่ยั่งยืนที่สุด แต่ก็ทำยากที่สุดเช่นกัน และต้องใช้เวลาในการสะสมฐานลูกค้า สิ่งสำคัญคือการบริการ และการให้ความรู้กับลูกค้าให้มากที่สุด และให้ลูกค้ามีความสุข สะดวก และสบายใจที่สุดในการที่จะซื้อแคคตัสกับเรา เพราะ ที่สวนของเราก็ใช้วิธีการนี้เช่นกัน โดยเราจะโพสต์ขายตามเทคนิคด้านบนทั้งหมด โดยสุดท้ายเราจะดึงดูดลูกค้ามาอยู่ในฐานลูกค้าของเราโดยเราพยายามจะบริการอย่างเต็มที่ เพื่อให้ลูกค้าประทับใจ จากนั้นเราก็จะมีลูกค้าประจำ ต่อให้ที่อื่นลดราคา ตัดราคา แต่ถ้าเราบริการลูกค้าดี ลูกค้าก็ยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อได้รับสินค้าและบริการที่ดีกว่า เราจึงไม่จำเป็นที่ต้องมีปัญหาในการขายแคคตัสไม่ได้

ขายแคคตัสไม่ดีนั้น คนส่วนมากก็ยังพบปัญหานี้กันต่อไป แต่หากเราศึกษาและทำความเข้าใจมากขึ้น อาจจะทำให้คุณเป็นอีกคนนึกที่พลิกวิกฤตเป็นโอกาสกลับมาทำให้ปัญหาในการแคคตัสไม่ดีหมดไป